
จะเป็นยังไง ถ้าเราอ่านหนังสือไม่ออก ?
เราคงอ่านป้ายต่างๆ บนท้องถนนไม่ได้ กรอกแบบฟอร์มไม่ได้ ขึ้นรถเมล์ไม่ถูกสาย หรือแม้แต่จะส่งข้อความไปหาคนที่เรารักสักคนก็ยังไม่ได้เลย….
ซึ่งในโลกนี้มี 757 ล้านคน ที่เป็นอย่างนั้น …
ผลที่เกิดจากการไม่ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ดีเพียงพอ ไม่ใช่การอ่านไม่ออก-เขียนไม่ได้เท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่อื่นๆ ตามมาอีกมากมายแบบที่เราไม่คาดคิดเลยทีเดียว
Project Literacy จึงเกิดขึ้น เพื่อออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเล่าเรื่องสิ่งที่ตามมาจากปัญหาไม่รู้หนังสือ ด้วยการแทนตัวอักษร A ถึง Z ด้วยปัญหาแต่ละอย่างเหล่านั้น ถ้าไม่ใช่ A-ant B-bird C-cat แล้ว แต่ละตัวจะแทนอะไรบ้างมาดูกันในคลิปนี้เลย…
A – AIDs : การอ่านออกเขียนได้ ทำให้คนแอฟริกามีแนวโน้มที่จะมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเชื้อ HIV มากขึ้นถึง 5 เท่า อย่างน้อยก็รู้ความสำคัญของการคุมกำเนิด การป้องกันการแพร่เชื้อ และไม่ให้เชื้อส่งต่อจากแม่สู่ลูก ซึ่งความรู้เบื้องต้นเหล่านี้สามารถรักษาชีวิตพวกเขา และครอบครัวได้ – UNESCO (2006)
B – Bloodshed : คนไม่รู้หนังสือมีแนวโน้มที่จะเป็นอาชญากร ฆาตกร หรือผู้ก่อคดีข่มขืนมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า – The Independent (2012)
C – Child Brides : การอ่านออกเขียนได้ สามารถหยุดปัญหาการเป็นเจ้าสาวตั้งแต่ยังเด็ก เพราะจากผลสำรวจพบว่าผู้หญิงที่สำเร็จการศึกษาอย่างน้อยชั้นประถม มีแนวโน้มที่จะต้องแต่งงานตอนเด็กลดลงถึง 1 ใน 6 – UNESCO (2013)
D – Drug Abuse : มีผลพิสูจน์ชัดเจนว่าปัญหายาเสพติดระบาดหนักที่สุดในกลุ่มคนไม่รู้หนังสือ เพราะการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ทำให้คนเหล่านั้นไม่มีทางเลือก และยากที่จะได้รับโอกาสดีๆ ในชีวิต – UNESCO (2004)
E – Ebola : การอ่านหนังสือออก ช่วยหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ ตอนที่โรคอีโบลาระบาดเมื่อปีที่แล้ว (2015) เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกที่ทำงานในแอฟริกาพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า การไม่รู้หนังสือของชาวบ้านเป็นอุปสรรคหลักในการให้ความรู้เรื่องการป้องกันเชื้ออีโบลา – The Globalist (2014)
F – Female Genital Mutilation : การสอนผู้หญิงที่เป็นแม่ให้รู้หนังสือ มีผลต่อการตัดสินใจไม่ให้ลูกสาวเข้าพิธีกรรมขลิบอวัยวะเพศหญิง ซึ่งทำให้เด็กสาวไม่ต้องทรมาน และเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคจากการขลิบ – UNICEF 2005 /World Health Organisation 2005
G – Gender Inequality : ผลวิจัยระบุว่า การอ่านออกเขียนได้ช่วยสร้างพลังให้กับผู้หญิง แต่ 2 ใน 3 ของคนกว่า 700 ล้านคนที่ไม่รู้หนังสือนั้นเป็นผู้หญิง! ในบางพื้นที่มีผู้หญิงไม่รู้หนังสือมากถึง 9 ใน 10 คน ซึ่งการที่ผู้หญิงไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ จึงมีส่วนบั่นทอนดความมั่นใจในตัวเอง และไม่ได้รับโอกาสในทางสังคมและเศรษฐกิจ และเกิดความไม่เท่าเทียมกันระหว่างเพศ – UNESCO 2006 / Library of Congress 2014
H – Homeless : คนที่ได้รับการศึกษาในระดับต่ำ มีแนวโน้มที่จะเริ่มทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย แล้วส่วนใหญ่ก็จะถูกเลิกจ้าง และไม่มีงานทำตั้งแต่อายุไม่เกิน 23 และหลังจากนั้นพวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นคนไร้บ้าน…ผลสำรวจพบว่าคนไร้บ้านในประเทศอังกฤษจำนวนกว่าครึ่ง เป็นคนไม่รู้หนังสือ – St Mungo’s Broadway London (2014)
I – Infant Mortality : การรู้หนังสือช่วยปกป้องลูกน้อยของคุณได้ เพราะเราสามารถเพิ่มความรู้เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพอนามัย อาหาร และการแพทย์ได้จากการอ่านหนังสือ จากผลสำรวจพบว่า การที่ผู้หญิง(ที่เป็นแม่)มีความรู้ในการอ่านเขียนมากขึ้น 50% ส่งผลโดยตรงต่ออัตราการเสียชีวิตของทารกที่ลดลงถึง 30% เลยทีเดียว – UNESCO 2015/ Oxfam 2000
J – Jail : การรู้หนังสือเป็นกุญแจสำคัญที่จะป้องกันอาชญากรรม ผลสำรวจพบว่า 70% ของผู้ต้องขังในอเมริกาเป็นคนไม่รู้หนังสือ และ 48% ของผู้ต้องขังในอังกฤษมีปัญหาในการอ่านและเขียนหนังสือ…การสอนให้อ่าน-เขียนจึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับชีวิตของพวกเขา – US Department of Education 2015 /National Institute of Continuing Adult Education 2011
K – Kalashnikov : เด็กที่รู้หนังสือย่อมมีแนวโน้มที่จะจับปืนน้อยลง และเด็กที่อ่านออกเขียนได้จะไม่ตีตัวออกห่างจากการศึกษา จึงไม่ต้องตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่มักจะฝึกเด็กให้จับปืน และเป็นกำลังสำคัญในการก่อการร้าย – UNESCO 2014
L – Life Expectancy : คนที่รู้หนังสือมีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนกว่า เพราะมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการดูแลตัวเอง จากผลสำรวจพบว่าผู้สูงอายุที่อ่านหนังสือไม่ออก มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าคนวัยเดียวกัน(ที่รู้หนังสือ)มากถึง 50% – World Literacy Foundation 2012
M – Malnutrition : การที่พ่อแม่ไม่รู้หนังสือทำให้พวกเขาไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับหลักทางโภชนาการ ว่าอะไรที่ควร/ไม่ควรให้ลูกกิน ดังนั้นเด็กที่มีแม่อ่านหนังสือไม่ออกจึงมีแนวโน้มสูงถึง 26% ที่จะหยุดเจริญเติบโตก่อนวัยอันควร – UNESCO Dakar 2012
N – No childhood : การรู้หนังสือช่วยหยุดปัญหาการใช้แรงงานเด็ก พ่อแม่ที่ไม่รู้หนังสือก็มักจะส่งเด็กไปทำงานแทนที่จะให้ไปโรงเรียน เพราะพวกเขาเองก็ไม่เห็นความสำคัญของการศึกษา แล้วเมื่อเด็กๆ เริ่มทำงาน พวกเขาก็จะไม่ได้มีชีวิตวัยเด็กอีกต่อไป แถมยังเป็นได้แค่แรงงาน ไม่สามารถจะเจริญก้าวหน้าไปได้มากกว่านั้น กลายเป็นวงจรของความยากจนที่ไม่สิ้นสุด – World Bank / United Nations 2007
O – Overdose : เมื่ออ่านหนังสือไม่ออก ก็อ่านฉลากยาไม่ได้ ไม่รู้ว่าต้องกินยาตอนไหน กินมากเท่าไหร่ จากผลสำรวจพบว่าคนที่ไม่รู้หนังสือมีความเสี่ยงที่จะกินยาเกินขนาด และอาการทรุดหนักกว่าเดิม มากถึง 18 เท่าของคนที่รู้หนังสือ – US Census Bureau 2007
P – Poverty : ถ้าทุกคนสามารถอ่านออกเขียนได้ จะมีคน 171 ล้านคนทั่วโลกที่หลุดพ้นจากความยากจนได้ เพราะการรู้หนังสือช่วยเพิ่มโอกาสในการหางาน และได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า – UNESCO 2010
Q – Quitting School : เด็กที่เรียนถึงชั้น ป.4 แล้วยังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ จะมีแนวโน้มที่พวกเขาจะเลิกเรียนหนังสือมากกว่าเด็กทั่วไปถึง 4 เท่า ซึ่งเมื่อพ่อแม่ก็ไม่รู้หนังสือ และไม่เห็นความสำคัญของการศึกษา ลูกๆ ของพวกเขาก็มักจะเดินตามทางนั้นมาด้วย เด็กจึงไม่มีอนาคตที่ดีเพราะไม่ยอมเรียนหนังสือต่อ – UNESCO 2010
R – Radicalization : ในประเทศไนจีเรีย การรู้หนังสือเป็นปัจจัยหลักอันดับ 2 ที่ทำให้คนไม่เข้าลัทธิหัวรุนแรง เพราะคนที่อ่านหนังสือไม่ออก ก็มักจะถูกกรอกหู และเชื่อตามได้ง่ายโดยไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง – United States Institute of Peace 2014
S – STDs : การรู้หนังสือมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually transmitted disease) หลายโรค เช่น โรคหนองใน, โรคเอดส์ เป็นต้น คนที่รู้หนังสือมีแนวโน้มที่จะรู้วิธีป้องกันเชื้อโรค และหาทางขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ได้มากกว่าคนที่อ่านหนังสือไม่ออกถึง 5 เท่า – US National Library of Medicine 2001/ UNESCO 2014
T – Trillion Dollars : ถ้าทุกคนในโลกนี้รู้หนังสือ ย่อมส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของโลกอย่างมาก คิดเป็นตัวเงินที่เพิ่มขึ้นได้ถึง 1.19 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว ดังนั้นหากเราทุกคนช่วยกันแก้ปัญหานี้ เราก็จะได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนานี้เช่นกัน – World Literacy Foundation 2012
U – Undermined : การรู้หนังสือจะเป็นหนทางไปสู่การเรียนรู้สิ่งอื่นๆ ในอนาคต และทำให้คนๆ หนึ่งมีสิทธิ์ที่จะมีส่วนร่วมในสังคมได้โดยสมบูรณ์ การเรียนรู้ที่จะอ่าน-เขียนย่อมเปิดโอกาสและช่วยผลักดันเด็กๆ ให้มีส่วนร่วมและประสบความสำเร็จได้ทั้งในโรงเรียน และในชีวิตต่อไปข้างหน้า – UNESCO 2006
V – Voiceless : การรู้หนังสือทำให้เรามีสิทธิ์มีเสียงในสังคมมากขึ้น – UNESCO 2006
W – World Hunger : ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่เกือบทั้งหมดของคนอดอยากจำนวน 795 ล้านคนในโลกนี้เป็นคนไม่รู้หนังสือ ผลการวิจัยของ World Bank ชี้ชัดว่าการเพิ่มอัตราการรู้หนังสือส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มอัตราการผลิตอาหารของคนเหล่านั้น – World Bank / Food and Agricultural Organisation of the United Nations 2002
X – Xxx : เด็กที่ตกเป็นเหยื่อในขบวนการค้ามนุษย์จำนวนกว่าครึ่งอ่านหนังสือไม่ออก การรู้หนังสือทำให้เราไม่อ่อนแอ และถูกหลอกได้ง่าย – UN OFFICE ON DRUGS AND CRIME (2010) UN DEVELOPMENT FUND FOR WOMEN (2005)
Y – Young Offenders : จำนวนผู้ต้องหาเยาวชนกว่าครึ่งหนึ่งของอังกฤษ มีความสามารถในการอ่านน้อยกว่าเด็กอายุ 11 ขวบ…เมื่อรู้หนังสือน้อยก็ทำให้เด็กไม่อยากไปโรงเรียน จึงเสี่ยงที่จะกระทำความผิดต่างๆ ได้ง่าย – MINISTRY OF JUSTICE (UK) 2013
Z – Zero Options : การรู้หนังสือช่วยเพิ่มโอกาสให้ชีวิตคนๆ หนึ่งได้มากกว่าที่เราคิด ตั้งแต่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง มีแนวโน้มที่จะได้รับการจัางงาน ไปจนถึงความสามารถที่จะรับรู้ทางเลือกในชีวิตอื่นๆ ที่เป็นสิทธิ์ของเราได้อีกด้วย – UNESCO 2006
นี่เป็นเพียงปัญหาที่ส่งผลต่อเนื่องมาจากการไม่รู้หนังสือ ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายหน่วยงานทั่วโลกที่ร่วมมือกันขับเคลื่อนและแก้ปัญหาเหล่านี้อยู่ในแต่ละจุด โดยเราสามารถเข้าไปดูผลงานที่พวกเขาทำ และให้การสนับสนุนได้ที่ www.projectliteracy.com
เกี่ยวกับ Project Literacy :