knowledge

[Problem Insight] ภาวะมลพิษทางอากาศ (Air Pollution) ตอนที่ 1

12 กันยายน 2019


, , , ,
, , , , , , , ,

ประเทศไทย ประสบกับปัญหาภาวะมลพิษทางอากาศมานานนับสิบปี แต่ที่กลายเป็นกระแสและทำให้เกิดความตื่นตัวกันมากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา คือ เรื่องของฝุ่น PM2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานของดัชนีคุณภาพอากาศ จนอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้หลายภาคส่วนหันมาให้ความสนใจและหาทางแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศกันอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

Problem Insight ตอนนี้เราจะพาไปรู้จักกับมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 กันให้มากขึ้น  โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกจะเป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับฝุ่น PM และผลกระทบที่เกิดขึ้น และส่วนที่ 2 จะเป็นการพูดถึงสาเหตุและแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เราสามารถทำได้

ภาวะมลพิษทางอากาศ (Air Pollution) คืออะไร

หมายถึง สภาวะของบรรยากาศกลางแจ้งที่มีสิ่งเจือปนอย่างหนึ่งหรือหลายๆ อย่างอยู่ในลักษณะ ปริมาณ และระยะเวลานานพอที่จะทําให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของมนุษย์หรือสัตว์ ตลอดจนทําลายทรัพย์สินของมนุษย์ อาคาร สถานที่ต่างๆ ให้เสื่อมสภาพ และสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม[1] ซึ่งสารพิษที่ทำให้เกิดภาวะมลพิษทางอากาศ ได้แก่ โอโซน (O3) ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NO2) และฝุ่นละอองอนุภาคขนาดเล็ก หรือ Particulate Matter (PM)


ฝุ่นละอองมีมากกว่า PM 2.5

Particulate Matters (PM) เป็นคำเรียกฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งแขวนลอยอยู่ในอากาศรวมกับไอน้ำ ควัน และก๊าซต่างๆ  ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่หากบรรยากาศไม่มีลมพัดผ่านเป็นเวลานาน ฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็กแบบนี้จะมาอยู่รวมกัน จนสามารถเห็นได้ในลักษณะหมอกควันอย่างช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมา

หลายคนอาจจะได้ยินชื่อก๊าซหลายชนิดในแคมเปญลดโลกร้อนมาตลอด แต่เพิ่งได้ยินชื่อของ ฝุ่น PM 2.5เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้อาจเข้าใจผิดได้ง่ายว่ามีฝุ่นละอองเพียงประเภทเดียว คือ PM2.5  แต่ในความเป็นจริง ฝุ่นละอองขนาดเล็กมีหลายขนาด ตั้งแต่ 0.002 ไมครอน (1 ไมครอน เท่ากับ 1 ใน 1,000 ส่วนของเมตร) ไปจนถึงขนาดใหญ่กว่า 100 ไมครอน โดยฝุ่นแต่ละชนิดมีการกระจายตัวและความอันตรายไม่เท่ากัน[2]

ยิ่งเล็กยิ่งอันตราย

ฝุ่นละอองที่ขนาด 10 ไมครอน (PM10) จะสามารถลอยอยู่ในอากาศเป็นนาทีถึงชั่วโมง เเละลอยได้ไกลถึง 10 กม. และจะค่อยๆ ตกลงสู่พื้นตามแรงดึงดูดของโลก หากเราอยู่ในบรรยกาศที่มีฝุ่นละออง PM10 เหล่านี้ ก็จะรู้สึกไม่สบายตัวและระคายเคืองตา และเมื่อสูดดมเข้าร่างกายจะขับออกมาเป็นเสมหะ

ในขณะที่ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอนนั้นน้ำหนักบางเบา ทำให้ลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศได้นานหลายวันถึงหลายสัปดาห์ สามารถลอยได้ไกล 100-1,000 กม. แถมยังมีลักษณะขรุขระคล้ายสำลี ประกอบกับขนาดที่เล็กมากๆ ทำให้ฝุ่นจิ๋วเป็นพาหะนำสารอื่น เช่น แคดเมียม ปรอท โลหะหนัก ไฮโดรคาร์บอน และสารก่อมะเร็งต่างๆ รอดขนจมูกและแพร่กระจายเข้าร่างกายไปสู่กระแสเลือด เส้นเลือดฝอย ไปสะสมและทำลายระบบทางเดินอากาศ[L3] และสมองได้

PM2.5 มีขนาดเล็กเพียงครึ่งเดียวของเม็ดเลือดและ PM1.0 ก็เล็กกว่า PM 2.5 อีก 25 เท่า

ดัชนีคุณภาพอากาศ

ปัจจุบัน ประเทศไทยใช้ดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index – AQI) ไว้แทนค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศโดยรวม ประกอบไปด้วย PM2.5, PM10, O3, CO, NO2 และ SO2 ซึ่งเป็นสารอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม สำหรับรายงานข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพอากาศว่าระดับมลพิษทางอากาศในแต่ละพื้นเป็นอย่างไร และมีผลกระทบต่อสุขภาพมากน้อยเพียงใด


แล้วทำไมเราจึงใช้ PM2.5 เป็นตัวชี้วัดว่าอากาศดี หรือไม่ดี

ถึงตอนนี้เราจะรู้ว่าฝุ่นควันยิ่งเล็กยิ่งอันตราย และยังมีฝุ่นขนาดเล็กกว่า PM2.5 อีกหลายเท่าหลายชนิด และค่า AQI เป็นค่าคุณภาพอากาศก็จริง  แต่ PM2.5 ก็เป็นฝุ่นละอองที่ขนาดเล็กที่สุด ที่เทคโนโลยีการตรวจจับฝุ่นละอองหลายประเทศทั่วโลกจะตรวจจับ และใช้เป็นตัวชี้วัดคุณภาพอากาศที่สำคัญ และเป็นฝุ่นที่ WHO ใช้ตั้งเป้าหมายลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากมลพิษทางอากาศในขณะนี้ แม้องค์การอนามัยโลก (WHO) จะระบุว่าไม่มี PM2.5 ในระดับใดเลยที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ[4]


ไทย vs สากล

ประเทศไทยใช้ดัชนีค่ามาตรฐานความเข้มข้นของ PM2.5 เฉลี่ยรายปี อยู่ที่ไม่เกิน 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และรายวันอยู่ที่ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นค่ามาตรฐานสำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่ใช้มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2553 และมีเป้าหมายร่วมในการลดเพดานลงเฉลี่ยทุกๆ 3 ปี

ในขณะที่ WHO เสนอเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอากาศเฉลี่ยต่ำกว่าค่าของประเทศไทยกว่า 2.5 เท่า โดยที่รายปี ไม่เกิน 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และรายวัน ไม่เกิน 25 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร

 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงค่าเฉลี่ยทั้งปี
 ประเทศไทย5025
 สหรัฐอเมริกา3512
 สหภาพยุโรป (EU)25
 องค์กรอนามัยโลก (WHO)2535/25/15/10
ที่มา โครงการศึกษาแหล่งกำเนิดและแนวทางการจัดการฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล กรมควบคุมมลพิษ

ผลกระทบจากฝุ่นควัน

สุขภาพ

การสูดดมมลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยร่วมในการตายก่อนวัยอันควรของคนไทย กว่า 50,000 คนต่อปี[5] โดยมีการคำนวนความรุนแรงของผลกระทบว่า ทุกๆ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรของ PM2.5 ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีจะทำให้ประชาชนที่เกิดและอาศัยในพื้นที่นั้นตลอดชีวิตอายุขัยสั้นลง 0.98 ปี  สอดคล้องกับโรคที่คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด 4 อันดับแรกล้วนซึ่งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับมลพิษทางอากาศทั้งหมด[6]

ผลกระทบทางสุขภาพจากฝุ่นจะเกิดขึ้นใน 12-72 ชั่วโมงหลังจากที่ได้รับฝุ่น[7] ตามปัจจัยเสี่ยงที่ผู้รับฝุ่นพบ เช่น อาชีพ การเดินทาง ที่ตั้งที่ทำงานและที่อยู่อาศัย สภาพที่ทำงานและที่อยู่อาศัย ไลฟ์สไตล์ รวมทั้ง ความ sensitive ของแต่ละบุคคล ซึ่งทุกๆ 10 ไมโครกรัมของ PM2.5 ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวันจะเพิ่มอัตราการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ทั้งเข้าห้องฉุกเฉินและนอนรักษาตัว เพิ่มขึ้น 3% ของอัตราปกติ ด้วยอาการที่สัมพันธ์กับมลพิษทั้งสิ้น[8]

เศรษฐกิจ

ผลการวิจัยพบว่าการอยู่ในบรรยกาศฝุ่นพิษที่เกิน 10 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตรต่อเนื่องเป็นเวลา 25 วัน จะลดความประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลง 1%[9]

ในด้านค่าใช้จ่าย เมื่อรวมรายจ่ายที่เกิดจากผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของคนในสังคม เช่น ค่าหน้ากาก (เฉลี่ยขั้นต่ำ 22.5 บาทต่อวันต่อคน) เครื่องฟอกอากาศ ค่ารักษาพยาบาลของตนและครอบครัว ค่าเสียโอกาสออกกำลังกายกลางแจ้ง ค่าเสียโอกาสในการขาดเรียนของเด็กและเยาวชน ฯลฯ มาคิดมูลค่าความเสียหายในเชิงเศรษฐศาสตร์แล้ว พบว่า ในปี 2561 ประเทศไทยเสีย ‘ต้นทุนทางสังคม’ ไปแล้ว 1.63 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจะต้องดูแลด้วยตนเอง[10]

สิ่งแวดล้อม

ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ระบุว่าฝุ่นที่ปกคลุมชั้นบรรยกาศไม่ได้ลดการมองเห็นในระยะไกลในคนอย่างเดียว แต่มีผลต่อสัตว์ที่อาศัยพระอาทิตย์หรือดาวช่วงกลางคืนในนำทางการอพยพตามฤดูกาล หาอาหาร อย่างสัตว์ เช่น ผึ้ง นก ด้วงมูลสัตว์ อีกด้วย[11]  รวมถึงการเผ่าป่า (เพื่อล่อและล่าสัตว์) ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดควันพิษนั้น จะเพิ่มความเสี่ยงในการหายไปของความหลากหลายทางชีวภาพ[12]  ในทำนองเดียวกัน ต้นไม้ก็จะดูดซับมลพิษเข้าไป รวมถึงก๊าซ SO2 ที่เกาะ PM2.5 เข้าไปในลำต้น ทำให้พืชเป็นพิษเรื้อรัง จนใบและต้นกลายเป็นสีเหลือง ไม่สามารถสังเคราะห์แสงตามปกติได้

อีกผลกระทบที่สำคัญ คือน้ำเป็นกรด จากการรวมตัวของก๊าซพิษที่ทำให้ฝนตกตามกระบวนการธรรมชาติ แต่ฝนนั้นเป็นกรด และการจัดการปัญหาฝุ่นแบบผิดๆ อย่างการฉีดน้ำไล่ฝุ่น ก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำ ชำระล้างแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ในดิน และทำลายป่าและการเกษตรที่ sensitive ต่อมลพิษ

ยิ่งในสภาวะอากาศแปรปรวนในปัจจุบัน หากอากาศยิ่งร้อนยิ่งแล้ง ปัญหาหมอกควันก็จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นในรอบต่อไป

สถานการณ์ฝุ่นควันในปัจจุบัน

สถานีตรวจวัดความเข้มข้นฝุ่น PM2.5 ของกรมควบคุมมลพิษ ณ ปี 2561 มี 53 สถานีในพื้นที่ 29 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจากข้อมูลปีล่าสุด[13] พบว่า เมืองแม่ฮ่องสอน เป็นเพียงสถานีเดียวที่มีความเข้มข้นของ PM2.5 รายปีอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ WHO ระบุไว้ (10 มคก./ลบ.ม.) และ น้อยกว่าครึ่งของจำนวนสถานีทั้งหมดมีค่าเฉลี่ยรายปีอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของประเทศไทย (25 มคก./ลบ.ม.) และจำนวนวันที่เกินค่ามาตรฐานของไทยรายวันสูงสุดสุดถึง 68 วันต่อปี

ด้วยข้อจำกัดทางจำนวนและการกระจายตัวของจุดตรวจวัด ข้อมูลข้างต้นจึงไม่สามารถสะท้อนสถานการณ์ฝุ่นละอองรายพื้นที่ได้ ซึ่งชุมชนที่ไม่มีการตรวจวัดอาจจะมีปัญหาฝุ่นมากกว่าหรือน้อยกว่าก็เป็นได้ 

ในด้านปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหามลพิษนั้น แต่ละพื้นที่ก็มีแตกต่างกัน แต่ทุกพื้นที่มีปัญหารุนแรงจากหลายปัจจัยทับซ้อนไม่มากก็น้อย  ซึ่งบางปัจจัยควบคุมได้โดยตรง บางปัจจัยควบคุมได้โดยอ้อม และมีหลายปัจจัยที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในการจัดการให้ฝุ่นควันอยู่ในระดับที่ดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมให้สำเร็จ

มลพิษเป็นปัญหาต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม[14] ด้วย 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ปัจจัยทางธรรมชาติ ปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพส่วนบุคคลของผู้รับมลพิษ และแหล่งกำเนิดของฝุ่น

ปัจจัยทางธรรมชาติ

1. สภาพแวดล้อมของพื้นที่
ลักษณทางภูมิประเทศในแต่ละพื้นที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่น เช่น ภูเขา หุบเขา และแอ่งกระทะ ทำให้หมอกควันลอยขึ้นไปในอากาศได้สูงประมาณ 3-5 กิโลเมตร และไม่สามารถกระจายตัวออกไปได้

รวมถึงสิ่งกีดขวางทางลมที่สามารถเป็นเอื้อต่อการพัดพามลพิษให้แพร่กระจายและ/หรือเจือจาง หรือ สมสม เช่น อาคาร ผังเมือง และต้นไม้  โดยการปลูกต้นไม้ที่ใบใหญ่และใบมีขนข้างถนน/ทางเดินเท้าในจำนวนมากก็ช่วยลดอุณหภูมิ และดักจับและกรองฝุ่นได้เป็นอย่างดี องค์กร USDA ระบุว่าการปลูกต้นไม้ในเมือง (Urban Trees) สามารถลดมลพิษทางอากาศได้ถึง 784,000 ตันต่อปี

ที่มา: TNC:Erica Simek Sloniker

2. สภาพทางอุตุนิยมวิทยา [15]

มีการวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศในกรุงเทพ (สถานีอากาศร.ร.สาธิตประทุมวัน) ผ่าน Machine Learning พบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวแปรที่ส่งผลต่อ PM2.5 ดังนี้[1]

  • อุณหภูมิระหว่าง 15–20°C และ อุณหภูมิจุดน้ำค้าง (dewpoint หรือ ปริมาณหยดน้ำที่เกาะที่ผิวแก้วด้านนอกแก้ว เมื่อตั้งแก้วน้ำเย็นไว้) ต่ำจะทำให้ค่าความเข้มข้น PM2.5 สูง ในขณะที่อุณหภูมิระหว่าง 30–35°C มักจะทำให้ค่า PM2.5 สูงขึ้นเสมอ
  • อุณหภูมิจุดน้ำค้าง 22.5–26°C ส่งผลให้ค่าความเข้มข้นของ PM2.5 ต่ำตลอดทั้งปี
  • หากความแรงลม ต่ำกว่า 5 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะทำให้ค่า PM2.5 สูงขึ้น
  • ค่าความกดอากาศสูงกว่า 1010 hPa จะทำให้ค่า PM2.5 สูงขึ้น (เนื่องจากทำให้ฝุ่นละอองไม่สามารถลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศที่สูงขึ้น และไม่สามารถแพร่กระจายได้ ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละอองเป็นชั้นหนาขึ้น จนเกิดหมอกควันปกคลุมในพื้นที่)
  • บรรยกาศที่มีความชื้นต่ำกว่า 60% จะทำให้ค่าความเข้ม PM2.5 สูงขึ้น
PM2.5 กับ Data science โดยคุณสิรภพ บุญวานิช (Software Engineer) (อ้างอิง 15)
  • วันและเวลาที่ค่า PM2.5 สูงมากที่สุดโดยเฉลี่ย คือ วันจันทร์ถึงวันพุธ ระหว่าง 8.00-10.00 ส่วนช่วงที่ฝุ่นน้อยที่สุดคือวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ระหว่าง 15.00-17.00 ซึ่งสัมพันกับที่ตั้งจุดตรวจจับ PM2.5 ที่เป็นโรงเรียน
  • ทิศทางลม และลมมรสุม ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการแพร่กระจายของมลพิษและค่าความเข้มข้นของ PM2.5  เห็นได้ชัดในกรณีที่พื้นที่ไม่มีแหล่งกำเนิดมลพิษโดยตรงแต่ได้รับผลกระทบจากการพัดของลมที่นำฝุ่นจากพื้นที่อื่นเข้าม

แหล่งกำเนิดฝุ่นละออง

แบ่งที่มาได้ 3 แหล่ง คือ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มนุษย์ และการแปรสภาพของสาร

  1. เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ได้แก่ ฝุ่นละอองจากดินและการเกษตร ไฟป่า เกลือทะเล ทราย มักจะเป็นฝุ่นขนาดใหญ่ (100 ไมครอนขึ้นไป) แหล่งที่ตั้งตามธรรมชาติมักอยู่ห่างไกลชุมชนและมีอันตรายน้อย
  2. กิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากปฎิกิริยาการเผาไหม้จนกลายเป็นฝุ่นขนาดเล็ก[1]  อ่านต่อได้ในส่วนที่ 2
แหล่งกำเนิดฝุ่นพื้นที่ที่มีปัญหาฝุ่นควันรุนแรง
การเผา
(54%)
ชีวมวลเชียงใหม่ พะเยา หนองคาย นครสวรรค์ กาญจนบุรี
ขยะสระบุรี (หน้าพระลาน) กรุงเทพ (หนองแขม)
การผลิตอุตสาหกรรม
(17%)
สมุทรสาคร สมุทรปราการ ระยอง (มาบตาพุด) สระบุรี ลำพูน ฉะเชิงเทรา ชลบุรี
การคมนาคม (13%)กรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น ตาก (แม่สอด) ภูเก็ต
การผลิตไฟฟ้า (9%)ลำปาง (แม่เมาะ) ระยอง (มาบตาพุด)
การใช้เชื้อเพลิงในบ้าน
และร้านค้า (7%)
ทั่วประเทศ
  1. การแปรสภาพของสาร (ฝุ่นทุติยภูมิ)
    เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางอ้อม จากการรวมตัวของก๊าซมลพิษ อย่างไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ในอากาศ ที่ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับแสงแดดและโอโซน รวมตัว (Coagulate) เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กมาก (Ultra-fine particle) เช่น แอมโมเนียมไนเตรตและแอมโมเนียมซัลเฟต

อ่านต่อ ภาวะมลพิษทางอากาศ (Air Pollution) ตอนที่ 2 สาเหตุและแนวทางการแก้ปัญหา


[1] มลพิษทางอากาศ: การบริหารจัดการ สิ่งแวดล้อมของไทย, เอกสารวิชาการอิเล็กทรอนิกส์ สํานักวิชาการ สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร https://library2.parliament.go.th/ejournal/content_af/2558/may2558-2.pdf[2] คลังความรู้ อากาศ: มลพิษทางอากาศ http://www.deqp.go.th/knowledge/อากาศ/มลพ-ษทางอากาศ/[3] ฝุ่นพิษ PM2.5 ทำไมใครก็ว่าร้าย? Greenpeace https://www.greenpeace.org/thailand/story/2162/pm25-invisible-villians/[4] Ambient (outdoor) air quality and health, WHO https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/ambient-(outdoor)-air-quality-and-health[5] ฝุ่น: แพทย์และนักสิ่งแวดล้อมวิตกไทยไม่ปรับเพดานวัด PM2.5 ตามมาตรฐานโลก, BBC Thai https://www.bbc.com/thai/46969830[6] ‘นักวิชาการมช.’ ชี้ ผลวิจัยฝุ่นพิษ 2.5 ‘ทำคนอายุสั้น-โง่-อารมณ์เพี้ยน’ จี้รัฐแก้จริงจัง, ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/general/news-301293[7] 72 ชม.เฝ้าระวัง “ผู้ป่วยเมือง”ผลกระทบฝุ่น 2.5 ไมครอน, Thai PBS https://news.thaipbs.or.th/content/269624[8] ‘นักวิชาการมช.’ ชี้ ผลวิจัยฝุ่นพิษ 2.5 ‘ทำคนอายุสั้น-โง่-อารมณ์เพี้ยน’ จี้รัฐแก้จริงจัง, ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/general/news-301293[9] Bad air makes you bad at your job, fastcompany https://www.fastcompany.com/90288343/bad-air-makes-you-bad-at-your-job[10] ฝุ่น: วิกฤตหมอกควันภาคเหนือ ทำเด็ก 4 ขวบ เลือดกำเดาไหลไม่หยุด, BBC Thai https://www.bbc.com/thai/thailand-47764143[11] การดูดาวของสัตว์ และการนำทางด้วยวิธีการทางดาราศาสตร์, SpaceTH https://spaceth.co/internal-gps-animals/[12] การหายไปของความหลากหลายทางชีวภาพ ส่งผลต่อมนุษยชาติอย่างไร, มูลนิธิสืบนาคเสถียร https://www.seub.or.th/bloging/[13] การจัดลําดับเมืองที่มีปัญหามลพิษทางอากาศ ปี 2561, Greenpeace https://www.greenpeace.org/thailand/publication/3139/city-ranking-2561/[14] โครงการศึกษาแหล่งกาเนิดและแนวทางการ จัดการฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล, กรมควบคุมมลพิษ http://infofile.pcd.go.th/air/PM2.5.pdf?fbclid=IwAR35Gochd30oJ_OvPHSZHqKbzo__6SRZT3nmXB2rE5_ru1HIN9MGrFK3iaM[15] PM2.5 กับ Data science โดยคุณสิรภพ บุญวานิช (Software Engineer)https://medium.com/@gaingain/pm2-5-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A-data-science-ac1a89940a19[16] การจัดลําดับเมืองที่มีปัญหามลพิษทางอากาศ ปี 2561, Greenpeace https://www.greenpeace.org/thailand/publication/3139/city-ranking-2561/


ความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

เข้าสู่ระบบด้วย

หรือ