การเป็นผู้นำทางความคิด หรือ Thought Leader นั้นเป็นกลยุทธ์การสื่อสารวิธีหนึ่งที่เริ่มเป็นที่พูดถึงมากขึ้นทั่วโลกตลอดระยะเวลา 5 ที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกลุ่มผู้นำในเครือข่ายธุรกิจที่ให้ความสนใจอย่างมากกับการแสดงออกว่าตนนั้นเป็นผู้นำทางความคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนวัตกรรมใหม่ มุมมองต่อสถาณการณ์ปัจจุบัน หรือความเชี่ยวชาญของตน ซึ่งทั้งหมดนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางธุรกิจกับกลุ่มลูกค้าในการเติบโตสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่อง
สำหรับนักสร้างการเปลี่ยนแปลง ผู้ประกอบการทางสังคม หรือกลุ่มผู้ทำงานโดยไม่แสวงหาผลกำไรนั้น การเป็นผู้นำทางความคิดมีความสำคัญอย่างไรบ้างต่อองค์กรหรือการสื่อสารเกี่ยวกับเป้าหมายที่ต้องการให้ประสบผลสำเร็จ บทความนี้จะชวนคุณมาทำความเข้าใจความหมายของ Thought Leadership หรือ การเป็นผํู้นำทางความคิด ความสำคัญในการนำไปใช้เพื่อสร้างผลกระทบทางสังคมในวงกว้าง และกระบวนการที่เราจะใช้ในการสื่อสารเพื่อเป็นผู้นำทางความคิดสำหรับนักสร้างการเปลี่ยนแปลง
ความหมายของการเป็นผู้นำทางความคิด
การเป็นผู้นำทางความคิด (Thought Leadership) คือการแสดงออกถึงคุณค่าเฉพาะตัวของปัจเจกบุคคลออกมาผ่านการถ่ายทอดวิชาความรู้ความสามารถในด้านที่ตนเองเก่งฉกาจมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น การเน้นยำให้ผู้คนเห็นถึงมุมมองของตนต่อสภาพปัญหาของเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน รวมไปถึงแสดงออกถึงความมั่นใจว่าตนเองนั้นเป็นผู้ที่มีอำนาจทางความคิดในการริเริ่มชักนำกระแส และกระบวนการเปลี่ยนแปลงในภาคส่วนที่ตนทำงานอยู่ได้
ทำไมการเป็นผู้นำทางความคิดจึงสำคัญในยุคปัจจุบัน?
จากการสำรวจข้อมูลระดับสากลโดยบริษัท Weber Shandwick ในปี 2018 พบว่า ผู้คนในปัจจุบันให้ความสำคัญและเชื่อถือในตัวบุคคลมากกว่าแบรนด์หรือองค์กรเป็นอย่างมาก ภาพลักษณ์และระดับความมีชื่อเสียงของผู้นำองค์กรณ์นั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพลักษณ์ขององค์กรที่พวกเขากำลังดำเนินการอยู่มากถึง 49% และพบว่า 60% ของผลประกอบการเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ผู้คนพึงพอใจและรู้สึกเชื่อมโยงกับภาพลักษณ์ขององค์กร กล่าวคือผู้นำองค์กรคือบุคคลที่เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและโครงการต่างๆให้บรรลุผลสำเร็จในทุกทาง เนื่องจากว่าภาพลักษณ์ของพวกเขานั้นมีผลต่อการตัดสินใจของผู้คนในการที่จะให้ความร่วมมือ สนับสนุน หรือบริโภคสินค้าและบริการจากองค์กรนั่นเอง
จากภาพด้านบนจะเห็นได้ว่าปัจจัยที่มีผลต่อความรู้สึกหรือความคิดเห็นผู้คนที่มีต่อองค์กรมากที่สุดคือ ‘คำพูดปากต่อปาก’ จากคนอื่นๆ หากใครที่ศึกษาวิธีทางการตลาดมานั้นคงจะพอคุ้นเคยกันดี แล้วเหตุใดผู้นำองค์กรจึงมีความจำเป็นที่จะสื่อสารความเป็นผู้นำองค์กรของตนออกมา นั่นเป็นเพราะผู้คนตัดสินความน่าเชื่อถือของข้อมูลและความรู้สึกของพวกเข้าที่มีต่อองค์กรผ่านข้อมูลที่ออกสู่สาธารณะ ซึ่งสิ่งที่คนส่วนใหญ่พูดคุยกันปากต่อปากถึงองค์กรนั้นมักจะเกี่ยวกับผู้นำที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเปรียบเสมือนเข็มทิศของอค์กรนั่นเอง ดังนั้นผู้นำองค์กรในยุคนี้จึงควรที่มองข้ามเสียงและความคิดของตนเองอีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเริ่มสื่อสารสู่สาธารณะโดยอิงจากหลักความเป็นจริงเพื่อสร้างจุดยืนที่ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนพูดถึงในแบบที่พวกเขาคิดขึ้นมาเอง หรือจะพูดในอีกแง่ การเป็นผู้นำทางความคิดเปรียบเสมือนการสร้างวาทะกรรม ซึ่งสกัดมาจากความคิด ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ ความเชื่อ และ ตัวตนของผู้นำองค์กร เพื่อโน้มนำความคิดของคนผู้คนในสังคม ยกตัวอย่างเช่น Greta Thunberg เด็กผู้หญิงชาวสวีเดนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำคนรุ่นใหม่ผู้ทรงอิทธิพลระดับโลกในการพูดถึงปัญหา Climate change และสร้างแรงกระเพื่อมปลุกกระแสพลเมืองโลกให้ออกมาช่วยการสร้างความเคลื่อนไหวด้วยการเปลี่ยนแปลง
ทำไม Changemakers ควรจะแสดงออกถึงการเป็นผู้นำทางความคิดมากขึ้น?
ดังที่กล่าวมาในข้างต้น การเป็นผู้นำทางความคิดจึงมีความสำคัญที่จะช่วยให้เหล่านักสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งในภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคสังคมเป็นที่จดจำสู่สาธารณะ ซึ่งถือเป็นการสื่อสารวิธีหนึ่งที่ช่วยสะท้อนเสียงอันหนักแน่นถึงเป้าหมายเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่นักสร้างการเปลี่ยนแปลงต้องการให้เกิดขึ้นจริง และที่สำคัญไปกว่านั้นคือการแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจปัญหาที่ต้องการจะแก้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอไอเดียผ่านข้อมูลที่ค้นคว้าวิจัยมา หรือจากผลงานที่ตนเองได้ลงมือทำจริงๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อให้กับองค์กรหรือโครงที่กำลังทำอยู่
นอกจากนี้การแสดงออกถึงการเป็นผู้นำทางความคิดยังมีส่วนกระตุ้นให้คนทั่วไปมาสนใจปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่สนใจในปัญหาเดียวกันอยู่แล้ว อยากเข้ามาร่วมมือช่วยกันแก้ไขปัญหานั้นๆผ่านการลงมือทำจริงๆ ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้ได้พบเจอผู้คนที่หลากหลายมากขึ้นที่จะมาช่วยขยายผลและวัดผลให้ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนจากองค์กรใหญ่ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก หรือแม้กระทั่งกลุ่มลูกค้าที่เป็นแหล่งรายได้หลักสำหรับธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อให้ดำรงธุรกิจดีๆต่อไปได้อย่างยั่งยืน
คุณลักษณะของการเป็นผู้นำทางความคิด
หนึ่งในคุณลักษณะที่สำคัญของการเป็นผู้นำทางความคิดที่ประสบความเร็จคือ ความสามารถในการแสดงให้เห็นถึงคุณค่าเฉพาะตัวที่ไม่มีผู้ใดเหมือน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นจุดยืนออกมาเด่นชัดและแตกต่างจากคนอื่น อย่างไรก็ตามโดยส่วนใหญ่แล้วบุคคลที่ได้ชื่อว่ามีความเป็นผู้นำทางความคิดจะมีคุณลักษณะร่วมกัน 10 อย่างดังนี้
- Original Thinker – มีความคิดเป็นของตนเอง และหาความเป็นไปได้ใหม่ๆที่ดีกว่าอยู่เสมอ ไม่ยึดติดว่าไอเดียของตัวองทั้งหมดดีที่สุดเสมอไป สามารถยอมละทิ้งไอเดียที่ไม่ดีเท่าที่ควรออกไปได้
- Visionary – มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่าสิ่งที่ต้องทำควรจะดำเนินไปในทิศทางใด มองเห็นเส้นทางในอนาคตต่อไปอีกหลายปีข้างหน้า และทำให้ผู้ตามเชื่อมั่นใจวิสัยทัศน์จนได้ร่วมมือลงมือทำด้วยกัน
- Fearless – ไม่เกรงกลัวต่อความขัดแย้งในเชิงความคิด และวิสัยทัศน์
- Passionate – มีความมุ่งมั่นทุ่มเท และเชื่อมั่นในไอเดียของตนจนสามารถแปลงข้อโต้แย้งให้กลายเป็นวิสัยทัศน์ที่สมบูรณ์ในระยะเวลาอันสั้น และรู้วิธีที่จะจัดการกับผู้เห็นต่างอย่างชำนาญ
- Articulate – สามารถสื่อสารด้วย passion และความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในตัวเกี่ยวกับไอเดียหรือวิสัยทัศน์ที่มี
- Good listeners – เป็นผู้ฟังที่ดี รับฟังความคิดเห็นทั้งกลุ่มที่สนับสนุนและกลุ่มที่คัดค้านเพื่อที่จะได้เรียนรู้จากคามคิดเห็นที่แตกต่าง รวมรวมข้อเสนอที่ดีจากทุกฝ่ายมาสร้างแผนงานต่อไป
- Command presence – สามารถพูดคุยกับผู้คนได้ทุกระดับอย่างเป็นธรรมชาติ และสามารถย่อยไอเดียหรือข้อมูลให้เป็นภาษาที่เรียบง่ายมีความเป็นกลางมากที่สุดเพื่อที่จะให้ทุกคนเข้าใจและพร้อมที่จะร่วมมือไปด้วยกันได้
- Deliberate – มีความรอบคอบในคำทุกพูดของตนเอง เพราะทุกคำพูดที่ออกไปสู่สาธารณะนั้นมีความหมายเสมอ เมื่อมีสิ่งใดที่ไม่รู้จะไม่พูดเกินความเป็นจริง
- Star quality – ใส่ใจในการปลูกฝังคุณค่าและฝึกฝนผู้ตามของพวกเขาอยู่เสมอ รวมไปถึงการรู้จักกลุ่มคนที่เหมาะสมกับตัวเขา และคอยดูอยู่เสมอว่ากลุ่มเป้าหมายนั้นๆรู้จักตัวเขาด้วยเช่นกัน
- Fixer – รู้ว่าควรทำอย่างไรเพื่อที่จะแปลงไอเดียต่างๆให้เป็นการกระทำจนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ดี และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เสมอ
จะเห็นได้ว่าบุคคลที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำทางความคิดนั้น ไม่เกรงกลัวต่อการเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจ เพราะพวกเขารู้ว่าความคิดและเสียงของพวกเขานั้นสำคัญ
กระบวนการใดบ้างที่สามารถช่วยทำให้ Changemakers เป็นผู้นำทางความคิดได้
การเป็นผู้นำทางความคิดนั้นใครๆก็สามารถเป็นได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะสามารถเป็นได้ในทันทีหรือชั่วข้ามคืน การที่คนอื่นจะมองว่าตัวเราเป็นผู้นำทางความคิดที่มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นหรือสถานการณ์ต่างๆของพวกเขานั้น เราจะต้องสร้างตัวเองให้เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือและได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้รู้จริงในปัญหาด้านนั้นๆเสียก่อน
“Experience takes time, patience, hard work, and a willingness to listen and learn from others…Those leaders who can observe and connect information from a number of sources are generally well positioned to create ideas that are informed by the needs of the marketplace. Credibility combines that expertise with a measure of humility, honesty and an appreciation for the human aspect of leading people.”
– Walt Rakowich, World’s leading thought leadership speaker.
9 ขั้นตอนที่ทุกคนสามารถเริ่มทำเพื่อการเป็นผู้นำทางความคิดตั้งแต่วันนี้มีดังต่อไปนี้
- ค้นหาเป้าหมายของตัวเองให้ชัดว่าเรามีความสนใจและความต้องการที่จะแก้ไขปัญหาสังคมหรือสิ่งแวดล้อมในเรื่องใด แล้วลองถามตัวเองเพิ่มเติมว่าเป้าหมายส่วนตัวของตนเองนั้นตรงกับงานที่เราต้องการจำทำหรือไม่ มีสิ่งใดที่เหมือนกันบ้าง เช่น อยากทำให้ระบบอาหารมีความยั่งยืนขึ้น เพื่อให้คนทุกคนเข้าถึงอาหารปลอดภัยในราคาที่จับต้องได้ เพราะตัวเราเองก็อยากทานอาหารที่ดีทุกวัน
- เมื่อรู้แล้วว่าเรามีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาใด ให้ลองศึกษาปัญหานั้นๆและหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อที่จะดูว่าเรายังขาดทักษะหรือความรู้ใดๆในการจัดการกับปัญหานี้
- จับจุดโฟกัสของเราให้ได้หลังจากที่เรารู้ตัวเองแล้วว่าเราต้องการจะแก้ปัญหาในเรื่องใดเป็นพิเศษ และศึกษาในเรื่องราวนั้นๆให้มากขึ้น เช่น อยากจะทำให้ระบบอาหารมีความยั่งยืนมากขึ้น แต่พบว่าในปัจจุบันมีปริมาณขยะอาหารเยอะมาก จึงอยากหาวิธีการที่จะส่งต่ออาหารสดที่มีมากเกินไปให้กลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงอาหารดีๆเหล่านั้น ดังนั้นเราจะต้องศึกษาประเด็นเรื่องขยะอาหารมากขึ้นแล้วชูประเด็นนี้ออกว่า เราเราสนใจมันจริงๆ
- เมื่อเราตัดสินใจได้แล้วว่าประเด็นที่เราตั้งใจจะศึกษาคือเรื่องใด เราก็ควรที่จะศึกษาเรื่องนั้นๆอย่างต่อเนื่อง และให้เท่าทันสถานการณ์ปัจจุบันอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้เราเป็นคนที่มีความรู้ในปัญหาจริงๆและเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือต่อคนอื่นที่ต้องการมามีส่วนร่วมกับเราอีกด้วย ว่าเรายึดมั่นตั้งใจที่จะทำให้ได้จริงๆ เช่น ศึกษาเรื่องสถิติของปัญหาขยะในทั้งต่างประเทศ และในประเทศ รวมไปถึงนวัตกรรมต่างๆที่สามารถจุดประกายไอเดียในขอบเขตที่เราทำได้ เป็นต้น
- ถึงขั้นตอนนี้ ‘การสื่อสาร’ จึงได้เข้ามามีบทบาทสำคัญที่จะช่วยให้เรากระจายเสียงของเราออกไปสู่สาธารณะ เพื่อให้เราสามารถเพิ่มจำนวนผู้คนที่ต้องการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆกับเรา และเพื่อหากลุ่มผู้สนับสนุนที่ตรงกับเรามาร่วมงานด้วยกันด้วย
- หาช่องทางการสื่อสารที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเอง เช่น เขียน Blog ทำโพสบน Social media ต่างๆ Facebook Instagram หรือแม้กระทั่ง LinkedIn แพลตฟอร์มที่คนทั่วโลกส่วนใหญ่ใช้เพื่อแชร์เรื่องราวความเชี่ยวชาญของตนเองให้กลุ่มเครือข่ายอาชีพเครือเดียวกันได้รับรู้
- ข้อความและใจความสำคัญที่เราควรสื่อสารออกไปนอกเหนือจากเรื่องราวความเป็นจริงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาหรือสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว เราควรที่จะใส่ความคิดเห็นหรือมุมมองที่มีต่อเรื่องนั้นๆลงไปด้วยเพื่อกระตุ้นให้คนในสังคมพูดคุยหารือเกี่ยวกับปัญหามากขึ้น ถือเป็นส่วนหนึ่งในการหาโอกาสต่อยอดไอเดียจากคนอื่นๆอีกด้วย
- เล่าเรื่องสิ่งที่กำลังทำบ้างเพื่อให้คนเห็นว่าเรากำลังเรื่องนี้อยู่จริงๆ เพื่อทำให้พวกเขาเชื่อใจเราและสร้างการมีส่วนร่วมในโครงการของเรามากขึ้น
- อย่าลืมที่จะฟังผู้อื่น อย่าลืมที่จะเรียนรู้จากคนที่รู้มากกว่าเราเสมอ เพราะนั่นคือหนึ่งหนทางที่เราจะได้เชื่อมโยงกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆและต่อยอดเครือข่ายที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงของเราออกไปให้กว้างขวางขึ้นด้วย
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าการเป็นผู้นำทางความคิดสำหรับนักสร้างการเปลี่ยนแปลงนั้นมีความสำคัญมากเพียงใดต่อนักสร้างการเปลี่ยนแปลงในการสร้างความเชื่อถือในหมู่คนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาหรือคนทั่วไป เพื่อกระตุ้นให้คนในสังคมได้ออกมาพูดคุยออกความคิดเห็นกันมากขึ้น เพื่อที่จะได้สร้างการมีส่วนร่วมกับคนที่หลากหลายและช่วยกันขยายผลกระทบที่ดีต่อสังคมเป็นวงกว้างต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง
- [Report] The company behind the brand: in reputation we trust CEO spotlight (Weber Shandwick, 2018)
- 10 Key Characteristics Every Thought Leader Should Possess (Calysto, 2019)
- https://www.businessnewsdaily.com/9253-thought-leadership.html
