knowledge

Mental Health Insight ข้อมูลเชิงลึกปัญหาสุขภาพจิตจาก YESGI

1 กันยายน 2022


จากกิจกรรม  Insight Tanks for Young ESG Innovator (YESGI)  ที่ School of Changmakers ร่วมมือกับ SCG Foundation เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และผู้ที่สนใจมาทำความเข้าใจปัญหาสังคมในประเด็นที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับสังคม สิ่งแวดล้อม หรือ ธรรมภิบาล ในช่วงระหว่าง 29 พฤษภาคม – 24 กรกฎาคม เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ มีผู้เรียนที่เรียนจนจบโครงการทั้งหมด 64 คน ซึ่งทีมงาน School of Changemakers ได้รวบรวมประเด็นปัญหาที่ผู้เรียนทั้งหมดสนใจ ข้อมูลที่ได้จากการลงไปทำความเข้าใจปัญหาเชิงลึกไว้ ที่นี่

จากผู้เรียนจบทั้งหมด มีคนที่สนใจสนใจประเด็นสุขภาพจิตวัยรุ่น  มากถึง 50% (32 คน) ทีมงานจึงเจาะประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับสุขภาพจิตจากผู้เรียน Insight Tanks รวบรวมมาได้ 4 ประเด็น คือ
1. วัยรุ่นขาดความเคารพและเห็นคุณค่าในตัวเอง
2. ความเครียดที่เกิดจากปัจจัยภายในและภายนอก
3. การกลั่นแกล้งในสถานศึกษา ทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัย
4. การเข้าถึงการให้คำปรึกษา ทั้งคนใกล้ตัวและบริการให้คำปรึกษามืออาชีพ 

ข้อค้นพบเกี่ยวกับการขาดความเคารพและเห็นคุณค่าในตัวเองของวัยรุ่น 

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเคารพและการเห็นคุณค่าในตัวเอง เช่น สภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขัน เปรียบเทียบ โดยเฉพาะสังคมไทยที่มองการแข่งขันเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเรื่องเรียน ที่ให้คุณค่ากับความเก่งวิชาการ รูปลักษณ์ หน้าตา จนเป็นความเคยชินที่เราคิดว่าเรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่อง “ปกติ”

อีกปัจจัยที่เกี่ยวข้องคือ การเลี้ยงดูของครอบครัว ที่ใช้ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ และควบคุม

ครูเชน คุณครูโรงเรียนมัธยมที่สนใจประเด็นสุขภาพจิตเด็กที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว พบว่า การที่ผู้ปกครองขาดความรู้เรื่องการจัดการปัญหาของบุตรหลาน แล้วใช้ความรู้เดิมของตนในการจัดการปัญหา เมื่อไม่ประสบผลสำเร็จ ความคาดหวังกลายเป็นความกังวล ความกังวลสะสมกลายเป็นความเครียด ส่งผลให้เกิดการรวบรัดใช้อำนาจ เพื่อให้ปัญหายุติ สุดท้ายส่งผลกระทบต่อทั้งตนเองในเชิงความมั่นใจ สภาพจิตใจ และความสัมพันธ์ อีกทั้งส่งผลกระทบต่อเด็ก เกิดปัญหาพฤติกรรม การจัดการปัญหา การจัดการตนเอง และการเข้าสังคมตามมา

จะเป็นไปได้ไหมที่เราจะช่วยให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาคุณค่าในตนเองของบุตรหลาน จนมีทักษะที่ชํานาญพอที่จะสร้างวิธีการที่เหมาะสมกับบริบทของตนเอง และมองเห็นผลกระทบที่ตัวเองเลือกวิธีจัดการปัญหา

เชน คเชนทร์ E057 

ข้อค้นพบเกี่ยวกับความเครียด

ปัจจัยภายในที่ส่งผลต่อความเครียด คือ การกดดันตัวเอง เหตุมาจากกลัวพ่อแม่ผิดหวัง กลัวโดนดุด่า
จากการเก็บข้อมูลของสกาย สุกัญญา E291 พบว่าเด็กวัยรุ่นคิดว่าตนเองสามารถจัดการกับความรู้สึกและสามารถแก้ปัญหาที่เกิดจากความเครียดของตนเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น เมื่อเจอบางเหตุการณ์ที่แก้ไม่ได้ จึงกดดันตัวเอง 

ยิ่งเมื่อสาเหตุของความเครียดมาจากคนใกล้ตัว คนในครอบครัว หรือถูกเพื่อน bully ทำให้ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร หลาย ครั้งนำไปสู่การทำร้ายตัวเองในที่สุด (มะมาย เพชรนรี E258 , ไข่มุก นภัสสร E259) 

ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อความเครียด ได้แก่ สถานการณ์ในช่วงนั้น ๆ เช่น
– การเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ส่วนหนึ่งมาจากการขาดความเข้าใจเรื่องการเตรียมตัว และคนช่วยแนะแนว เมื่อเรียนไม่ทันผลสอบไม่ดี ทำให้เกิดความเครียด ความกดดันจากคนรอบตัวที่ไม่เข้าใจ
– สถานการณ์ความเครียดที่เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับชีวิตหลังเรียนจบ (post-graduate blues) (ป้อน ญาตาวี E310) 

เมื่อเกิดสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว คนรอบข้างปฏิบัติต่อเด็กอย่างผิดวิธี เช่น พูดจารุนแรง กล่าวโทษ เปรียบเทียบ กดดัน มองข้ามถึงปัญหาที่แท้จริง แต่มุ่งประเด็นไปถึงปัจจัยอื่น เช่น มีแฟนเลยทําให้การเรียนตก ไม่สนใจการเรียนมากพอ ไม่ใส่ใจ ในการเรียน ไม่ตั้งใจเรียนในห้อง (กล้วยไม้ ณัฐชนันท์ E154)

บางคนเจอสถานการณ์ครอบครัวแตกแยก หรือความสัมพันธ์กับผู้ปกครองไม่ดี เมื่อมีปัญหาจึงปรึกษาใครไม่ได้ คิดว่าถ้าทำร้ายตัวเองอาจเป็นทางออกที่ดี เหมือนได้ระบายอารมณ์ เช่น กรีดข้อมือ เอาหัวชนฝากผนัง ทึ้งผมแรงๆ เป็นต้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถหลุดออกมาได้ หากโชคดีก็จะนึกได้ว่าสามารถปรึกษาใครได้บ้าง เช่น ไปปรึกษาครูที่โรงเรียน ครูประเมินอาการแล้วจึงติดต่อผู้ปกครองเพื่อพาไปพบจิตแพทย์ จึงได้รับการรักษาตามขั้นตอน และดีขึ้นตามลำดับ  “แม้จะมีวิธีอีกเยอะที่ช่วยให้ระบายความเครียดได้ แต่เพื่อนก็เลือกที่จะทำร้ายตัวเอง เพราะทำได้ง่าย ใกล้ตัว โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่ตามมา ขอแค่ผ่านสถานการณ์นี้ไปก่อน” (มะมาย เพชรนรี E258)

ดรีม ชลิตา นักเรียน Insight Tanks for YESGI เล่าให้ทีมงานฟังว่า มีช่วงนึงดรีมประสบปัญหานี้มากับตัว เลยรู้สึกว่ายังมีอีกหลายคนที่เจอเหมือนตัวเองอยู่ ถูกคาดหวังจากที่บ้าน หรืออยู่กับเพื่อนแล้วคำพูดของเพื่อนส่งผลทำให้กดดัน บางทีผู้ปกครองเขาหวังดี จนบางทีมันมากดดัน “เวลาเครียด อารมณ์จะดิ่งมาก ทุกอย่างเป็นสีเทา เกิดคำถามว่า เราเกิดมาทำไม ไม่อยากทำอะไรเลย รู้สึกแย่กับตัวเองทุกอย่าง ทั้งตัวเองและเพื่อนต่างมีอาการคล้ายกัน มองโลกในแง่ร้ายทั้งหมด บางคนก็ไม่สนใจว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับโลก จะเกิดอะไรขึ้นก็ช่างมัน” 

เมื่อเพื่อนมาปรึกษา แต่ละคนมีความคิดที่แตกต่างกัน มีวิธีแก้ไขที่แตกต่างกัน วัยรุ่นคนนึงที่กว่าจะไปสู่สภาวะของโรคซึมเศร้าได้ แปลว่าสังคมรอบข้างเขาหล่อหลอมเขามา ทำให้สะสมมาเรื่อยๆ ถ้าผู้ปกครองเข้าใจได้ว่าพฤติกรรมของเขามันส่งผลต่อลูกได้ ถ้าเขาเข้าใจและหาแนวทางร่วมกัน คอยรับฟังและคอยซัพพอร์ต หรือบางคนเจอความเครียดจากภายนอก ถ้าผู้ปกครองคอยรับฟังและซัพพอร์ต สถาบันครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญสิ่งนึงเลย

จะเป็นไปได้ไหมที่เราจะช่วยให้ผู้ปกครองตระหนักถึงความเครียดและความกดดันของนักศึกษาและอย่าคาดหวัง เพื่อให้นักศึกษาสามารถระบายความเครียดได้ ลดความเครียดลงได้ และมีคนคอย support

ดรีม ชลิตา E388

ข้อค้นพบเกี่ยวกับการกลั่นแกล้งในสถานศึกษา ทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัย

วงจรอุบาทว์ของการ​ Bully  เมื่อเด็กโดน bully หลายคนเลือกที่จะเก็บความเครียดไว้คนเดียว ไม่กล้าปรึกษาใคร หนักเข้าคือ ไม่อยากไปโรงเรียน ทำให้ผลการเรียนแย่ลง เพิ่มความเครียดเรื่องเรียนเข้าไปอีก เพราะกลัวว่าครอบครัวจะผิดหวัง เมื่อแบกรับความเครียดหลายอย่างพร้อมกัน จึงมีความคิดอยากทําร้ายตัวเอง (ไข่มุก นภัสสร E259) 

บางคนเมื่อถูกบูลลี่แล้วสูญเสียความมั่นใจทั้งหมดไป ในขณะเดียวกันบางคนก็ใช้ชีวิตต่อไปเพื่อเอาชนะคนที่บูลลี่เขา ไม่ว่าจะทำอะไรจะต้องดีกว่า เก่งกว่า และเอาชนะด้วยความรู้สึกเคียดแค้นเสมอ ทำให้บางครั้งเขาไม่ได้มีความสุขในการใช้ชีวิตเลย (มิ้นท์ ชุติกาญจน์ E318) 

เมื่อแกนนําในกลุ่มเริ่มบูลลี่คนใดคนหนึ่ง ทําให้ทุกคนไม่กล้าเป็นเพื่อนกับคนที่ถูกบูลลี่เพราะกลัวจะโดนด้วย จึงไม่มีใครช่วยเหลือและปล่อยให้คนถูกกระทําโดดเดี่ยว (มิ้นท์ ชุติกาญจน์ E318)  เพื่อน ๆ เลือกที่จะถอยห่างจากคนที่ถูกรังแกเพราะไม่อยากโดนแกล้งเหมือนกัน (ใบบุญ ณภัทร E296) 

จากมุมของคนที่ Bully คนอื่น คิดว่าการบูลลี่เป็นเรื่องปกติ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ แค่แซว ไม่ได้มีเจตนาจะทําให้คนอื่นรู้สึกแย่และเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติที่ทําได้ไม่ผิดอะไร หลายครั้งคนที่ถูกกระทำมาก่อนจะกระทำกับคนอื่นต่อ เพราะคิดว่าตนเองเคยโดนมาแบบนี้ คนอื่นที่ด้อยกว่าก็สมควรโดนเหมือนกัน (มิ้นท์ ชุติกาญจน์ E318) 

ทุกคนที่ถูกบูลลี่ เกิดคำถามในใจเสมอว่า “ฉันผิดอะไร ฉันทำอะไรให้เธอ” “ทั้งที่ไม่เคยทำไม่ดีกับใครเลย แต่ทำไมจู่ๆเขาถึงไม่ชอบเรา” กว่าจะก้าวผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ บางคนต้องรอให้เวลาเปลี่ยนผ่าน เช่น ถูกกระทำขณะอยู่ ม.4 ต้องรอให้เรียนจบและมีชีวิตใหม่ในมหาวิทยาลัย จึงก้าวข้ามความเจ็บปวดนั้นได้ บางคนผ่านไปไม่ได้ต้องลาออกจากโรงเรียน บางคนก็เป็นไปตามข่าวที่เราเห็น(ฆ่าตัวตาย) เวลาเรามาโรงเรียน คิดแค่เรื่องเรียนก็เต็มสมองแล้ว แต่เพื่อนที่ถูกกระทำกลับต้องแบกความรู้สึกแย่ ๆ นี้ไว้ด้วย บางคนที่สัมภาษณ์ พื้นฐานครอบครัวก็ไม่ดี ยังต้องมาเจอเพื่อนที่ไม่ดีอีก แม้ภายนอกเขาดูร่าเริงแจ่มใส แต่แท้จริงแล้วภายในเขาแตกหักมาก…” (มิ้นท์ ชุติกาญจน์ E318) 

จะเป็นไปได้ไหมที่เราจะทำให้เด็กเข้าใจเรื่องการเคารพสิทธิซึ่งกันและกันให้ตั้งแต่วัยก่อนที่จะเป็นเยาวชน

ข้อค้นพบเกี่ยวกับการเข้าถึงการให้คำปรึกษา

อย่างที่เราทราบดีว่า ในบริบทของวัยรุ่น เด็กนักเรียน นักศึกษา การเข้าถึงคำปรึกษาดูจะเป็นเรื่องยาก ทั้งการขอคำปรึกษาจากคนใกล้ตัว เช่นครอบครัว เพื่อน หรือ จากผู้เชี่ยวชาญ ด้วยหลายเหตุ เช่น

ความไม่กล้า

ไม่กล้าที่จะเข้ารักษากับจิตแพทย์ 

ไม่กล้าที่จะปรึกษาคนในครอบครัว คนรอบตัว ส่งผลให้เกิดความเครียด ความกังวล นำไปสู่ปัญหาทั้งร่างกาย ทางจิตใจ และทาง พฤติกรรม เช่น เครียดจนนอนไม่หลับ กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ไม่อยากไปโรงเรียน เพราะเรียนไม่รู้เรื่อง ทำให้เก็บปัญหาเอาไว้คนเดียว (กล้วยไม้ ณัฐชนันท์ E154)

ความไม่รู้ 

เยาวชนมักไม่รู้ตัวว่ามีภาวะซึมเศร้า และไม่รู้จักวิธีการรับมือ  (ออม รุ่งอรุณ E156)
ความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย (ทั้งที่บางโรงเรียน มหาวิทยาลัย มีการให้บริการฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย) (นิว กัญญารัตน์ E273)
ไม่รู้ช่องทางการติดต่อขอคําปรึกษาด้านนี้  (อิ้ง ภูริชญา E044)

คนใกล้ตัวไม่รู้วิธีการรับมือ ขาดความรู้ เลยไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี (ออม รุ่งอรุณ E156)

ความไม่เข้าใจ
เด็กหลายคนเจอคําพูดจากคนรอบข้างว่าการที่เด็กทําตัวแบบนี้ (มีปัญหาสุขภาพจิต) เพราะต้องการเรียกร้องความสนใจ (แพรว เขมรินทร์ E275)
หลายคนคิดว่าอาการซึมเศร้า สามารถรักษาได้ง่าย หรือเป็นโรคของคนที่เรียกร้องความสนใจ ไม่ร้ายแรง ทําให้ปล่อยปละละเลย ไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร (วิว ภัทรมน E255)
คนใกล้ตัว ครอบครัวและเพื่อนไม่พร้อมจะรับฟัง 

ความไม่เชื่อ

ความเชื่อของคนในสังคมบางส่วนที่เชื่อว่า การไปหาหมอคือเป็นบ้า  (ฝ้าย สุวพิชญ์ E246)

“เพื่อนคนนึงที่ร่าเริงไม่น่าเชื่อว่าจะมีปัญหา แต่พอเราสังเกตเห็นว่าเขาหน้าเครียดๆ เราก็ลองถาม ค่อยๆทำให้เขาเชื่อใจที่จะเล่า จึงรู้ว่าปัญหาของเขาคือปัญหาครอบครัว พ่อแม่แยกทาง พ่อทำงาน ต้องดูแลน้องคนเดียว เขารู้สึกว่าเขาอายุแค่ 18 ปีทำไมต้องรับภาระ  รวมถึงเรื่องการเรียน ที่เรียนไม่ทัน หมดไฟในการเรียน เมื่อจะปรึกษาพ่อแม่ ผู้ปกครอง กลับได้รับคำตอบว่า ‘ปัญหาแค่นี้เอง โตมาจะเจออะไรมากกว่านี้อีก’ เขาก็น้อยใจ ส่วนเพื่อน การปรึกษาเป็นเหมือนการระบายเฉย ๆ มีทางแก้บ้างเล็กน้อย แต่ช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะกลับบ้านก็ยังเจอสถานการณ์เดิมของครอบครัวที่เป็นสาเหตุอยู่

ในการเข้าถึงนักจิตวิทยาในสังคมของเขาค่อนข้างยาก เพราะเขารู้สึกว่าต้องสนิทจริง ๆ เท่านั้น เขาถึงจะระบายให้ฟัง ประกอบกับสังคมชนบทที่ พอเด็กทำตัวซึมหรือเงียบไป ก็จะมีคนบอกว่าเด็กเรียกร้องความสนใจ เขาจึงไม่อยากปรึกษาใคร” (แพรว เขมรินทร์ E275) 


การที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจประเด็นนี้เป็นอย่างมากเพราะปัญหาสุขภาพจิต เป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด หวังว่าข้อมูลที่ผู้เรียน Insight Tanks 2022 ไปสัมภาษณ์ เก็บข้อมูล สังเคราะห์มานี้ จะช่วยเปิดมุมมอง ชวนพวกเราให้หันมาใส่ใจ ช่วยกันประคับประคอง ใส่ใจดูแลคนรอบตัวมากขึ้น และเริ่มตั้งคำถามกับระบบสังคมที่มีการแข่งขัน มุ่งเน้นคุณค่าแบบเดียว ทั้งที่เราทุกคนมีศักยภาพที่แตกต่าง หลากหลาย คนเก่งไม่ได้มีแบบเดียว ความสวยไม่ได้มีแบบเดียว เราทุกคนมีวิธีและหนทางในการแก้ไขปัญหา เยียวยาที่แตกต่างกัน ประเด็นนี้ยังคงต้องการคนมาช่วยกันต่อไป


ใส่ความเห็น

เข้าสู่ระบบด้วย

หรือ