วันที่ 20 กันยายนนี้เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ เราจึงชวนทีม wkmrism ผู้เข้าร่วมโครงการ TK Dreammakers ที่ TK Park ร่วมกับ School of Changemakers เปิดโอกาสให้เยาวชนอายุ 15-18 ปีได้ลองลงมือทำโปรเจกต์ มาแชร์ประสบการณ์และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำโปรเจกต์ในครั้งนี้กัน
เกี่ยวกับทีม
ทีม wkmrism เป็นการรวมตัวกันของนักเรียนจากโรงเรียนสตรีภูเก็ต 3 คน ประกอบไปด้วย วุ้นเส้น เก๋ และมายร์ ทั้ง 3 คนสนใจประเด็นปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น โดยเจาะประเด็นไปที่ความเครียดหรือความทุกข์ที่เกิดจากการการเรียนของนักเรียนในระดับมัธยมปลาย จึงเลือกจัดกิจกรรมออนไลน์ เพื่อเป็นพื้นที่ให้กลุ่มเป้าหมายได้ร่วมแชร์ประสบการณ์การเรียน และทบทวนเกี่ยวกับความสุขของตัวเองมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสร้างบัญชี Instagram ที่นำเสนอข้อมูลความรู้เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่นด้วย

ประสบการณ์ที่ได้รับจากโครงการ
ประสบการณ์การทำงานเป็นทีมของน้องๆ ก่อนเข้าร่วมโครงการและหลังเข้าร่วมโครงการแตกต่างไปจากเดิมไหม อย่างไรบ้าง
ก่อนเข้าร่วมโครงการ การทำงานเป็นทีมคือ ทุกคนจะเลือกหน้าที่ที่ตัวเองถนัด และรับผิดชอบหน้าที่นั้นตั้งแต่แรกจนจบ ซึ่งส่วนใหญ่ การแบ่งงานก็เช่นกัน แบ่งงานกันไปเลยตั้งแต่แรก ต่างคนต่างทำงานที่ตัวเองรับผิดชอบ และเอางานมารวมกันตอนท้าย มีบางครั้งที่เพื่อนบางคนในทีมไม่ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายไป หัวหน้าทีมก็มักจะต้องรับงานของคนนั้นมาทำเอง
พอมาเข้าร่วมโครงการนี้ การทำงานเป็นทีมแตกต่างไปเยอะมาก เพราะในโครงการมีใบงาน Team Role ที่เราจะต้องสลับหน้าที่กันไปในทุกๆ บทเรียน เป็นการแบ่งหน้าที่ที่ชัดเจน ทำให้ทำงานเป็นทีมง่ายขึ้น เพราะเรารู้ว่าความรับผิดชอบของเราในแต่ละบทเรียนคืออะไร นอกจากนี้ ยังได้ลองทำหน้าที่ใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน ตอนแรกก็กังวลว่าเราจะทำได้ไหม เช่น เก๋ ปกติไม่เคยต้องเป็นคนประสานงานเลย เราถนัดหาข้อมูล พอได้ลองทำจริงก็รู้สึกว่าสนุก ท้าทายดี ส่วนวุ้นเส้น ที่เดิมมักเป็นหัวหน้า เป็นคนประสานงานตลอด พอได้รับบทบาทอื่นๆ ก็ได้ค้นพบว่า เราไม่จำเป็นต้องควบคุมทุกอย่าง ปล่อยให้เพื่อนทำบ้างก็ได้ ส่วนมายร์ พอได้ลองครบทุกบาทบาทแล้ว ก็ค้นพบว่าชอบเป็นคนจดบันทึก (Notetaker) มากที่สุด เป็นสิ่งที่ถนัดที่สุด
ระหว่างการทำโปรเจกต์ มีความรู้สึกยังไงบ้าง ช่วงที่เกิดปัญหา ท้อบ้างมั้ย แล้วจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง
ไม่รู้สึกท้อ แต่รู้สึกเหนื่อย เพราะงานและกิจกรรมที่โรงเรียนเยอะมาก ต้องอ่านหนังสือ เรียนพิเศษเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยฯ ด้วย และมีโปรเจกต์นี้อีกหนึ่งอย่าง ทำให้ต้องจัดการเวลาให้ดีกว่าเดิม เลยทำให้รู้สึกเหนื่อย แต่ก็เป็นเพียงความเหนื่อยกาย ไม่ได้เหนื่อยใจ เลยไม่ได้รู้สึกท้อ หรืออยากล้มเลิกอะไร ไม่ได้หมด Passion เพราะเรามีเป้าหมายและเห็นปลายทางที่ชัดเจน ก็อยากไปให้ถึงจุดนั้น
เวลารู้สึกเหนื่อยกายแบบนี้ พักแล้วก็หายเหนื่อย แค่ไปนอนตื่นมาก็รู้สึกดีขึ้น ดู Youtube สักตอน หรือการคุยระบายกันกับเพื่อนก็ทำให้หายเหนื่อยเหมือนกัน ทีมเรา 3 คนเป็นส่วนประกอบที่ลงตัว เพราะวุ้นเส้นจะเป็นคนเครียด จริงจัง แต่เก๋และมายร์จะเป็นสายชิวๆ ก็จะคอยให้กำลังใจกัน คอยดึงๆ กันไว้ ไม่ตึงไม่หย่อนจนเกินไป
สิ่งที่จะนำไปใช้ต่อจากโครงการนี้
เก๋: การทำงานเป็นทีมอย่างเป็นระบบ กำหนดหน้าที่ของแต่ละคนอย่างชัดเจน เวลาทำงานจะได้เป็นไปอย่างราบรื่น เพราะทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง นอกจากนี้ จากการเข้าร่วมโครงการนี้ ก็ได้เห็นทักษะของตัวเองชัดขึ้นด้วย รู้ว่าเราทำอะไรได้ดี และต้องพัฒนาทักษะด้านไหนเพิ่มเติม อย่างการเป็นผู้ค้นคว้า (Reseacher) เป็นสิ่งที่เราถนัด ส่วนบทบาทผู้จดบันทึก (Notetaker) ก็เป็นทักษะที่เราต้องพัฒนาต่อไป ต้องจดให้เร็วกว่านี้
วุ้นเส้น: จากการจัดกิจกรรมออนไลน์ในโครงการนี้ทำให้เรากล้าแสดงออกมากขึ้น กล้าพูดต่อหน้าสาธารณชนมากขึ้น แต่ก่อน เรามักไม่ค่อยกล้า พอได้มาลองทำในโครงการก็ได้เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง ได้รู้ว่า เราก็ทำได้ดีเหมือนกัน ได้หักล้างจุดอ่อนที่เราเคยไม่มั่นใจออกไป นอกจากนี้ ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา เราได้เข้าร่วมค่ายออนไลน์แล้วรู้สึกสนุก พอได้มาเปลี่ยนบทบาทเป็นคนจัดกิจกรรมเอง ก็ทำให้ได้เห็นวิธีการและขั้นตอนในการจัดกิจกรรมและการดำเนินงานต่างๆ
มายร์: คล้ายๆ กับวุ้นเส้นเลย ปกติเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่ค่อยกล้าแสดงออก จะนิ่งๆ พอได้มาทำกิจกรรมในโครงการนี้ นอกจากเราจะต้องเป็นคนถามคำถามผู้เข้าร่วมแล้ว เราก็ต้องตอบคำถามเองด้วยในบางช่วง ทำให้ได้ลองเป็นคน entertain คนอื่นดูบ้าง คอยดึง energy และคอยสนับสนุนคนอื่นๆ พอได้ลองทำแล้ว มันก็ทำให้เรากล้าพูดในสิ่งที่คิดมากขึ้น มั่นใจในตัวเองมากขึ้น
อยากบอกอะไรเพื่อนๆ ที่สนใจอยากจะลองลงมือทำโปรเจกต์
เก๋: ลุยเลย! ทำเลย! ทำให้เต็มที่! โครงการนี้น่าสนใจ เพราะเราได้ลองทำหลายๆ หน้าที่ หลายๆ บทบาท และได้ลองคิดจัดกิจกรรมตั้งแต่ต้นจนจบด้วยตัวเองเลย คิดตั้งแต่ว่า เราอยากทำอะไร วางแผนที่จะลงมือทำ และลงมือทำจริงๆ ได้ทำงานกันเป็นทีมกับเพื่อนๆ และได้เสริมความมั่นใจของตัวเองขึ้นมาด้วย
วุ้นเส้น: คิดว่าเพื่อนๆ บางคนอ่านรายละเอียดโครงการแล้วอาจจะคิดว่า ต้องเหนื่อยแน่ๆ เลย แต่อยากบอกว่า การทำสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราได้เรียนรู้อย่างดีที่สุดเลย เพราะไม่ได้มีคนมาคอยสั่งว่าต้องทำอะไร ตอนไหน แต่เราได้ลองคิดเองหมด และเรียนรู้จากการลงมือทำเองจริงๆ ไม่มีใครมาห้ามหรือหยุดเรา ทำให้เราได้ลองทำเองและเรียนรู้ด้วยตัวเองจริงๆ
มายร์: อยากให้ทุกคนมาลองดู เพราะการที่เราได้เริ่มคิดตั้งแต่หัวข้อที่จะทำ กิจกรรมที่จะทำ วางแผนว่าจะทำอะไร ตอนไหน มันดีกับตัวเราเองมากๆ สามารถเอาไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้เยอะเลย กับการวางแผนชีวิตด้วย โครงการนี้เปิดโอกาสให้เราได้แสดงความคิดของตัวเองอย่างเต็มที่จริงๆ
และนี่คือสรุปประสบการณ์ที่ทีม wkmrism ได้รับตลอดระยะเวลา 12 สัปดาห์ในโครงการ TK Dreammakers 2022 ครั้งนี้ สำหรับใครที่สนใจกิจกรรมของทีมนี้ สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเกี่ยวเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์ที่ทีมทำได้ที่นี่ และสามารถติดตามผ่านช่องทาง Instagram ของทีมได้ที่นี่
ใครที่สนใจอยากนำเครื่องมือที่ใช้ในโครงการ TK Dreammakers ไปศึกษาและใช้ต่อ ดาวน์โหลดเครื่องมือ Young Starters Toolkit ได้ที่นี่